COA เอกสารสำคัญสำหรับสารสกัดสมุนไพร
COA ย่อมาจาก Certificate of Analysis ก็คือใบรับรองผลการวิเคราะห์คุณภาพสินค้า ที่ผู้ผลิตตรวจสอบ ทดสอบ และรับรองให้กับผู้ซื้อ ตามล็อตการผลิตนั้น ๆ โดยสามารถนำมาการันตีความปลอดภัยของสารสกัดที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ ว่าสิ่งที่เราเลือกนั้นมีคุณภาพ และผ่านมาตรฐานจริงๆ โดยใบวิเคราะห์ควรระบุสิ่งต่างๆเหล่านี้ Product Name – ชื่อสินค้า Batch Number or Lot No. – เลขที่ครั้งที่ผลิต เมื่อผู้ซื้อรับสินค้าต้องเช็คว่าสินค้านั้นมี Batch Number เดียวกับที่ระบุใน COA หรือไม่ Manufacturing Date – วันที่ผลิต Expiration Date – วันหมดอายุ Description – รายละเอียดสินค้า Test Method – กระบวนการทดสอบ Specification – คุณลักษณะของวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ Test Results – ผลที่ได้จากการทดสอบ […]
เครื่องสกัดสุดล้ำ ที่ทำให้ NAP ไม่เหมือนใคร
การจะมีสารสกัดสมุนไพรที่มีคุณภาพ ก็ต้องมีเครื่องสกัดสมุนไพรที่มีคุณภาพเช่นกัน แล้วเครื่องสกัดสมุนไพรของ NAP จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร เราไปดูกันเลย “เครื่องต้มสกัดด้วยน้ำขนาดใหญ่” (Extractor Tank) เป็นถังต้มสกัดสแตนเลส ขนาด 1500ลิตร จำนวน 2 ถัง เป็นการสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรโดยใช้น้ำเป็นตัวทำละลายใช้วิธีต้มและกวนด้วยความร้อน โดยให้น้ำร้อนทำการชะเอาสารสำคัญออกมาจากสมุนไพร ตัวเครื่องออกแบบให้เป็นการสกัดแบบไหล “เครื่องต้มสกัดแบบสูญญากาศ” (Vacuum Extractor) ใช้ในการสกัดสมุนไพร ด้วยตัวทำละลายแอลกอฮอล์ในระบบสุญญากาศ ขนาดถัง 500 ลิตร ซึ่งจะทำให้คุณภาพของสารสกัดยังคงอยู่ ไม่สูญสลายไปกับความร้อนและยังสามารถเก็บเอทธานอลกลับได้เพื่อนำมาใช้สกัดใหม่ได้อีกหลายครั้ง “เครื่องสกัดด้วยคลื่นอัลตราโซนิค” (Ultrasonic Extractor) เป็นการสกัดด้วยคลื่นความถี่สูงอัลตราโซนิค เพื่อไปกระทบกับผนังเซลส์ของสมุนไพรให้แตกออกซึ่งเป็นเทคนิคที่ไม่ใช้ความร้อนช่วยให้สารสกัดยังคงคุณภาพและไม่สูญเสียคุณภาพของสมุนไพรเป็นเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน “เครื่องสกัดด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Co2” (Supercritical Co2 EXtractor) เป็นการสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรโดยใช้ก๊าซ carbon dioxide (CO2) ที่ความดันมากกว่า 300 เท่าของชั้นบรรยากาศ และ ที่อุณหภูมิเหมาะสม ประมาณ 30 องศาเซลเซียส ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับการสกัดด้วยตัวทำละลาย การใช้อุณหภูมิที่ต่ำนั้นจะทำให้สารสำคัญ (Active Ingredients) ยังคงอยู่และไม่ถูกทำลายมีความใกล้เคียงกับสารที่มีอยู่ในธรรมชาติ […]
ทำไมสารสกัดชาเขียว..ถึงไม่มีสีเขียว ?
หลายคนเข้าใจว่า ชาเขียว ต้องมีสีเขียวสิ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “ชาเขียว” ซึ่งในความเป็นจริงชาเขียวไม่จำเป็นต้องมีสีเขียวเสมอไปเพราะชาก็มีสีอื่น ๆ ได้ เนื่องจากมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ต้นกำเนิดก็คือมาจากชาเขียวเหมือนกัน เพียงแตกต่างกันที่กระบวนการผลิต และเวลาในการเก็บเกี่ยว สารสีขียวที่อยู่ในใบชาเขียวคือสารคลอโรฟิล (chlorophyll) ที่ส่งผลให้เกิดสีเขียวขึ้นมาถ้าเราชงด้วยน้ำร้อน แต่ในกรณีสารสกัด สารสำคัญที่ออกฤทธิ์ของชาเขียวไม่ใช่คลอโรฟิล แต่มันคือ apigalloca gallate และสารอื่น ๆ ที่เป็นสารกลุ่มโพลีฟีนอล ถ้าเกิดการหมักหรือการสกัดจะทำให้คลอโรฟิล และโพลีฟีนอลในใบชาลดลง โดยเปลี่ยนแปลงจาก theaflavins และ thearubigins รวมถึงปริมาณ คาเทคชินกับเทนนินที่ต่างกันออกไปทำให้สารสกัดไม่มีสีเขียว ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ คือ ชามัทฉะ (Matcha) กับ โฮจิฉะ (Hojicha) ชามัทฉะ (Matcha) คือการนำใบชาที่แห้งมาบดผงให้เกิดความร้อนน้อยที่สุด ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพของใบชา และชาก็ยังคงมีสีเขียวอยู่ ในขณะที่ โฮจิฉะ (Hojicha) คือชาเขียวที่นำไปผ่านกรรมวิธีการผลิตโดยการคั่ว ทำให้ใบชาสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล น้ำชาที่ได้จึงมีสีเดียวกันและมีกลิ่นหอมจากการคั่วที่ชัดเจนมากนั่นเองค่ะ
สารสกัดนาโนเทคโนโลยีคืออะไร
นาโน หมายถึงอะไร นาโน หมายถึง ขนาดที่เล็ก เล็กมากๆ เล็กจนไม่สามารถบอกเห็นได้ด้วยตาเปล่า และ นาโนเทคโนโลยี หมายถึง เทคโนโลยีประยุกต์ที่เกี่ยวกับการผลิตหรือสังเคราะห์ผลิตภัณฑ์ในระดับอะตอมโมเลกุล ที่มีขนาดเล็กถึงระดับ 1 ถึง 100 นาโนเมตร ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีคุณสมบัติที่พิเศษขึ้น ทั้งในด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้สอย และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ มีบริษัทอาหารและเครื่องดื่มหลายๆบริษัทค่ะที่ทำสารสกัดขมิ้นนาโนออกมา แล้วทำไมเค้าถึงต้องทำเป็นขมิ้นนาโน แล้วทำไมถึงไม่ขายเป็นสารสกัดขมิ้นเลยล่ะ ? เพราะขมิ้นโดยธรรมชาติแล้วจะมีปัญหาเรื่องรสชาติและกลิ่นฉุน (ซึ่งเป็นปัญหาที่พบกันได้บ่อยมากจากสารสกัดธรรมชาติหลาย ๆ ชนิด) เมื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในอาหารและเครื่องดื่ม ก็จะทำให้รสชาติไม่ดีและมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงสารสำคัญในขมิ้นชันละลายน้ำได้ไม่ดี เสื่อมสลายได้ง่าย ทำให้เวลากินเข้าไปแล้วร่างกายจะดูดซึมได้น้อย เค้าจึงได้พัฒนาสารสกัดขมิ้นธรรมดา ๆ ให้เป็นขมิ้นนาโน ด้วยการทำออกมาในรูปแบบนาโนสเฟียร์ นาโนสเฟียร์ คืออะไร นาโนสเฟียร์ (Nanosphere) ก็คือ นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ของการกักเก็บสารสกัดในระดับนาโน เรียกว่า นาโนเอนแคปซูเลชั่น (Nanoencapsulation) ด้วยการนำสารสกัดที่ต้องการมาห่อหุ้มหรือบรรจุลงในแคปซูลนาโน ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยทำให้สารสำคัญที่มีอยู่ในขมิ้นมีความคงตัวมากขึ้น เมื่อกินเข้าไปทำให้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ที่สำคัญมีคุณสมบัติกลบกลิ่นและรสชาติของขมิ้นได้ เพิ่มความสามารถในการละลายน้ำได้ดี ไม่ตกตะกอน นำไปใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร […]
สาระน่ารู้ กับ การเคลือบเม็ดยา
ความแตกต่างระหว่าง Sugar coated tablets VS Film coated tablets https://www.napbiotec.io/wp-content/uploads/2022/06/เคลือบเม็ดยา-HD.mp4 ยาเม็ดเคลือบน้ำตาล (Sugar-coated tablets) เป็นยาเม็ดที่ถูกเคลือบด้วยน้ำตาล ซึ่งการเคลือบด้วยน้ำตาลส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความขมของตัวยา เนื่องจากยาบางชนิดมีรสชาติไม่ดีจึงจำเป็นต้องเคลือบเพื่อกลบรสชาติของยาด้วยน้ำตาล ลดการระคายเคืองที่เกิดจากตัวยา และลดโอกาสของตัวยาในการสัมผัสแสง ออกซิเจนและความชื้น เพื่อความคงตัวของเม็ดยา ยาเม็ดเคลือบฟิล์ม (Film-coated tablets) การเคลือบด้วยฟิล์มมีวัตถุประสงค์และกระบวนการเช่นเดียวกันกับการเคลือบน้ำตาล แต่ในขั้นตอนการเคลือบจะเปลี่ยนไปใช้พอลีเมอร์แทนน้ำตาล และเม็ดยาที่เคลือบด้วยฟิล์มนั้นจะทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร ทั้งยังสามารถควบคุมการปลดปล่อยของตัวยาได้ด้วย ประโยชน์ของการเคลือบเม็ดยา สารเคลือบช่วยให้เม็ดยาทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร ควบคุมการปลดปล่อยตัวยาให้ออกมาอย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้มากขึ้น ตัวยาบางชนิดมีฤทธิ์กัดกระเพาะอาหาร สารเคลือบช่วยให้เม็ดยาไม่แตกตัวในกระเพาะจึงช่วยลดการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ การเคลือบเม็ดยาช่วยปกป้องเม็ดยาจากแสง ความชื้นและความร้อนซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ความคงตัวของเม็ดยาต่ำลง การเคลือบช่วยปกป้องตัวยาในเม็ดยาไม่ให้แตกตัวและถูกทำลายก่อนการดูดซึม การเคลือบช่วยกลบรสหรือกลิ่นที่ไม่น่ารับประทานของตัวยา ช่วยให้รับประทานง่ายขึ้น
ล้วงลึก : กว่าจะเป็นสารสกัดกระท่อมแบบน้ำ
ผลิตภัณฑ์บางอย่าง กว่าจะออกมาเป็นแบบที่เราเห็นนั้น ต้องใช้เวลาในการคิดค้น และผ่านกรรมวิธีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนหลากหลายขั้นตอน โดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อน อย่างสารสกัดกระท่อมแบบน้ำ ของ Natrax ซึ่งวันนี้ต้องขอบอกเลยค่ะว่าห้ามพลาด!! เพราะนี่คือขั้นตอนในการผลิตที่บุคคลคนภายนอกไม่ได้มีโอกาสเห็นกันง่ายๆ จะเป็นยังไง มีความพิเศษและพิถีพิทันขนาดไหน เชิญรับชมได้เลยค่ะ คัดสรรใบกระท่อมสดที่มีคุณภาพปลอดสารเคมี นำเข้าเครื่องต้มสกัดสมุนไพร นำเข้าเครื่องสกัดด้วยคลื่นอัลตร้าโซนิค ผ่านกระบวนการ Evaporation เพื่อทำให้สารสกัดเข้มข้น ทำให้สารสกัดมีอนุภาคเล็กลงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ออกมาเป็นสารสกัดกระท่อมแบบน้ำ
ต้นกระท่อม หน้าตาเป็นยังไง?
ทุกวันนี้เราก็เห็นพ่อค้าแม่ค้า ขายใบกระท่อมกันตามท้องถนน ซึ่งเราก็มักจะเห็นใบกระท่อมที่มีสีเขียวเข้ม แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่า เจ้าต้นกระท่อมนั้นมีหน้าตาลักษณะอย่างไร ? ต้นกระท่อม เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ปานกลาง มีแก่นเป็นไม้เนื้อแข็ง สูง10 -15 เมตร มีลักษณะใบคล้ายใบกระดังงา กระท่อมมีชนิดก้านใบแดงและใบเขียว ดอกกลมโตขนาดเท่าผลพุทรา ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียว เรียงตัวเป็นคู่ตรงข้าม แผ่นใบขนาดกว้างประมาณ 5-10 ซม. ยาวประมาณ 8-14 ซม. ดอกมีสีขาวอมเหลืองออกเป็นช่อตุ้มกลมขนาด 3-5 ซม. เป็นยังไงกันบ้างคะ ต้นกระท่อมนั้นมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แถมยังนำใบมาใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย ถ้าเพื่อนๆ ชอบสาระความรู้ดีๆ แบบนี้ อย่างลืมแชร์ให้คนรอบข้างด้วยนะคะ อ้างอิงจาก : https://bit.ly/3ljZdtM
เกิดอะไรขึ้น!? หลังจาก “กระท่อม” ถูกกฎหมาย
ถึงแม้กระท่อมจะถูกปลดออกจากยาเสพติดและทำให้ถูกกฎหมายในประเทศไทยมาสักพักแล้ว… หลังจากนั้นมาก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงธุรกิจทั้งรายเล็กรายใหญ่ รวมไปถึงการเกษตร ที่ผู้คนหันมาให้ความสนใจในการเพาะปลูกและค้าขายกระท่อมกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีอีกหลายธุรกิจขนาดใหญ่ เริ่มนำกระท่อมเข้ามาเป็นส่วนประกอบในผลิตสินค้า อาทิเช่น อาหาร ขนม เครื่องดื่ม เป็นต้น เรียกได้ว่า “กระท่อม” คือ “พืชเศรษฐกิจ” ที่จะเข้ามากระตุ้นวงการสมุนไพรและเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในธุรกิจทุกๆ ขนาดอีกครั้งก็ว่าได้ ถ้าหากใครกำลังสนใจลงทุนเกี่ยวกับสมุนไพรกระท่อมก็ไม่ควรลังเล เพราะในปัจจุบันเริ่มมีการแข่งขันกันสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะคะ
เรื่องที่คุณไม่เคยรู้..ในกระท่อม
ทำไมกระท่อมถึงมีความสำคัญมากในปัจจุบัน… เพราะกระท่อมนั้นเหมือนสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างมา ถึงแม้ที่ผ่านมากระท่อมเคยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ปัจจุบันก็มีการแก้กฎหมายให้พืชกระท่อมเป็นพืชที่ถูกกฎหมายแล้ว ซึ่งถ้าเราศึกษาและเรียนรู้วิธีการใช้กระท่อมอย่างถูกต้องแล้ว เราจะเห็นถึงประโยชน์จากภายในของใบกระท่อมที่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งทางด้านการแพทย์ เศรษฐกิจ และอื่นๆ อีกมากมายด้วยค่ะ ฉะนั้นแล้ว เรามาร่วมผลักดันกระท่อมไทยให้ก้าวไกลไปในทุกวงการกันนะคะ
ทำไมร่างกายถึงต้องการ “สารต้านอนุมูลอิสระ”
เอ้…สารต้านอนุมูลอิสระ คืออะไร? จำเป็นต่อร่างกายของเราจริงไหม ? วันนี้ Nap จะมาแชร์ความรู้ให้ฟังค่ะ ต้องอธิบายก่อนเลยว่า “อนุมูลอิสระ” คือ ของเสียที่ร่างกายสร้างขึ้นตลอดเวลา อาจมาจากกระบวนการเผาผลาญ ความเครียด นอนไม่พอ มลพิษรอบตัว แอลกอฮอล์ หรือมาจากอายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยปราศจากการยับยั้ง จะทำให้เซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายเสื่อมเร็วขึ้น ผิวหนังหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย เป็นสาเหตุให้ดูแก่กว่าวัยนั่นเอง สารต้านอนุมูลอิสระจึงเป็นเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยยับยั้ง ซึ่งร่างกายของเราสามารถผลิตสารต้านอนุมูลอิสระได้ก็จริง แต่เอ๊ะ! อย่าลืมนะว่ามันก็เสื่อมไปตามอายุที่มากขึ้นเช่นกัน งั้นเราจะเพิ่มสารอนุมูลอิสระให้กับร่างกายเราได้อย่างไรดี?คำตอบก็คือ ทานอาหารหลัก หรือพวกอาหารเสริมที่มีวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี แอสตาแซนธิน รวมไปถึงโคเอนไซม์ คิวเทน ยังไงล่ะ เพียงเท่านี้ก็เราก็จะไม่ดูแก่เกินวัยแล้วนะคะทุกคน