ยืดอายุสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรด้วยวิธีการสกัด

สมุนไพรที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน บางชนิดก็อาจมีอายุสั้น เนื่องจากโดนอากาศ ความชื้น และความร้อน ซึ่งปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดความเสื่อมของตัวสมุนไพรรวมไปถึงสารออกฤทธิ์ข้างใน บางคนจึงมีการนำสมุนไพรไปอบแห้งเพื่อยืดอายุ ก็อาจจะเป็นวิธีที่ช่วยได้ในระดับนึง แต่การนำไปอบแห้ง ใช่ว่าจะสามารถนำสมุนไพรทุกชนิดไปอบได้ อีกทั้งยังมีผลในเรื่องการเสื่อมสลายของสารออกฤทธิ์หรือสรรพคุณอีกด้วย วิธีที่ดีที่สุดในการยืดอายุและยืดสารออกฤทธิ์นั้นก็คือการทำไปสกัดในรูปแบบผง เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยนี้นั้นมีเครื่องจักรที่เราสามารถกำหนดเลือกดึงสารแต่ละชนิดของตัวสมุนไพรออกมาได้ และมีขั้นตอนการทำสารสกัดที่ได้ออกมาไปเข้ากระบวนการทำรูปแบบนาโน ซึ่งจะเป็นการทำให้สารมีอนุภาคขนาดเล็กมากๆ เพื่อกักเก็บและคงสภาพของสารออกฤทธิ์สมุนไพรนั้นๆ วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่สามารถยืดอายุสารออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดนั่นเองค่ะ

เครื่องสกัดสุดล้ำ ที่ทำให้ NAP ไม่เหมือนใคร

การจะมีสารสกัดสมุนไพรที่มีคุณภาพ ก็ต้องมีเครื่องสกัดสมุนไพรที่มีคุณภาพเช่นกัน แล้วเครื่องสกัดสมุนไพรของ NAP จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร เราไปดูกันเลย “เครื่องต้มสกัดด้วยน้ำขนาดใหญ่” (Extractor Tank) เป็นถังต้มสกัดสแตนเลส ขนาด 1500ลิตร จำนวน 2 ถัง เป็นการสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรโดยใช้น้ำเป็นตัวทำละลายใช้วิธีต้มและกวนด้วยความร้อน โดยให้น้ำร้อนทำการชะเอาสารสำคัญออกมาจากสมุนไพร ตัวเครื่องออกแบบให้เป็นการสกัดแบบไหล “เครื่องต้มสกัดแบบสูญญากาศ” (Vacuum Extractor) ใช้ในการสกัดสมุนไพร ด้วยตัวทำละลายแอลกอฮอล์ในระบบสุญญากาศ ขนาดถัง 500 ลิตร ซึ่งจะทำให้คุณภาพของสารสกัดยังคงอยู่ ไม่สูญสลายไปกับความร้อนและยังสามารถเก็บเอทธานอลกลับได้เพื่อนำมาใช้สกัดใหม่ได้อีกหลายครั้ง “เครื่องสกัดด้วยคลื่นอัลตราโซนิค” (Ultrasonic Extractor) เป็นการสกัดด้วยคลื่นความถี่สูงอัลตราโซนิค เพื่อไปกระทบกับผนังเซลส์ของสมุนไพรให้แตกออกซึ่งเป็นเทคนิคที่ไม่ใช้ความร้อนช่วยให้สารสกัดยังคงคุณภาพและไม่สูญเสียคุณภาพของสมุนไพรเป็นเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน “เครื่องสกัดด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Co2” (Supercritical Co2 EXtractor) เป็นการสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรโดยใช้ก๊าซ carbon dioxide (CO2) ที่ความดันมากกว่า 300 เท่าของชั้นบรรยากาศ และ ที่อุณหภูมิเหมาะสม ประมาณ 30 องศาเซลเซียส ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับการสกัดด้วยตัวทำละลาย การใช้อุณหภูมิที่ต่ำนั้นจะทำให้สารสำคัญ (Active Ingredients) ยังคงอยู่และไม่ถูกทำลายมีความใกล้เคียงกับสารที่มีอยู่ในธรรมชาติ […]

ทำไมสารสกัดชาเขียว..ถึงไม่มีสีเขียว ?

หลายคนเข้าใจว่า ชาเขียว ต้องมีสีเขียวสิ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “ชาเขียว” ซึ่งในความเป็นจริงชาเขียวไม่จำเป็นต้องมีสีเขียวเสมอไปเพราะชาก็มีสีอื่น ๆ ได้ เนื่องจากมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ต้นกำเนิดก็คือมาจากชาเขียวเหมือนกัน เพียงแตกต่างกันที่กระบวนการผลิต และเวลาในการเก็บเกี่ยว สารสีขียวที่อยู่ในใบชาเขียวคือสารคลอโรฟิล (chlorophyll) ที่ส่งผลให้เกิดสีเขียวขึ้นมาถ้าเราชงด้วยน้ำร้อน แต่ในกรณีสารสกัด สารสำคัญที่ออกฤทธิ์ของชาเขียวไม่ใช่คลอโรฟิล แต่มันคือ apigalloca gallate และสารอื่น ๆ ที่เป็นสารกลุ่มโพลีฟีนอล ถ้าเกิดการหมักหรือการสกัดจะทำให้คลอโรฟิล และโพลีฟีนอลในใบชาลดลง โดยเปลี่ยนแปลงจาก theaflavins และ thearubigins รวมถึงปริมาณ คาเทคชินกับเทนนินที่ต่างกันออกไปทำให้สารสกัดไม่มีสีเขียว ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ คือ ชามัทฉะ (Matcha) กับ โฮจิฉะ (Hojicha) ชามัทฉะ (Matcha) คือการนำใบชาที่แห้งมาบดผงให้เกิดความร้อนน้อยที่สุด ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพของใบชา และชาก็ยังคงมีสีเขียวอยู่  ในขณะที่ โฮจิฉะ (Hojicha) คือชาเขียวที่นำไปผ่านกรรมวิธีการผลิตโดยการคั่ว ทำให้ใบชาสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล น้ำชาที่ได้จึงมีสีเดียวกันและมีกลิ่นหอมจากการคั่วที่ชัดเจนมากนั่นเองค่ะ

สารสกัดนาโนเทคโนโลยีคืออะไร

นาโน หมายถึงอะไร นาโน หมายถึง ขนาดที่เล็ก เล็กมากๆ เล็กจนไม่สามารถบอกเห็นได้ด้วยตาเปล่า และ นาโนเทคโนโลยี หมายถึง เทคโนโลยีประยุกต์ที่เกี่ยวกับการผลิตหรือสังเคราะห์ผลิตภัณฑ์ในระดับอะตอมโมเลกุล ที่มีขนาดเล็กถึงระดับ 1 ถึง 100 นาโนเมตร ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีคุณสมบัติที่พิเศษขึ้น ทั้งในด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้สอย และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ มีบริษัทอาหารและเครื่องดื่มหลายๆบริษัทค่ะที่ทำสารสกัดขมิ้นนาโนออกมา แล้วทำไมเค้าถึงต้องทำเป็นขมิ้นนาโน แล้วทำไมถึงไม่ขายเป็นสารสกัดขมิ้นเลยล่ะ ? เพราะขมิ้นโดยธรรมชาติแล้วจะมีปัญหาเรื่องรสชาติและกลิ่นฉุน (ซึ่งเป็นปัญหาที่พบกันได้บ่อยมากจากสารสกัดธรรมชาติหลาย ๆ ชนิด) เมื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในอาหารและเครื่องดื่ม ก็จะทำให้รสชาติไม่ดีและมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงสารสำคัญในขมิ้นชันละลายน้ำได้ไม่ดี เสื่อมสลายได้ง่าย ทำให้เวลากินเข้าไปแล้วร่างกายจะดูดซึมได้น้อย เค้าจึงได้พัฒนาสารสกัดขมิ้นธรรมดา ๆ ให้เป็นขมิ้นนาโน ด้วยการทำออกมาในรูปแบบนาโนสเฟียร์  นาโนสเฟียร์ คืออะไร นาโนสเฟียร์ (Nanosphere) ก็คือ นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ของการกักเก็บสารสกัดในระดับนาโน เรียกว่า นาโนเอนแคปซูเลชั่น (Nanoencapsulation) ด้วยการนำสารสกัดที่ต้องการมาห่อหุ้มหรือบรรจุลงในแคปซูลนาโน ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยทำให้สารสำคัญที่มีอยู่ในขมิ้นมีความคงตัวมากขึ้น เมื่อกินเข้าไปทำให้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ที่สำคัญมีคุณสมบัติกลบกลิ่นและรสชาติของขมิ้นได้ เพิ่มความสามารถในการละลายน้ำได้ดี ไม่ตกตะกอน นำไปใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร […]

ล้วงลึก : กว่าจะเป็นสารสกัดกระท่อมแบบน้ำ

ผลิตภัณฑ์บางอย่าง กว่าจะออกมาเป็นแบบที่เราเห็นนั้น ต้องใช้เวลาในการคิดค้น และผ่านกรรมวิธีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนหลากหลายขั้นตอน โดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อน อย่างสารสกัดกระท่อมแบบน้ำ ของ Natrax ซึ่งวันนี้ต้องขอบอกเลยค่ะว่าห้ามพลาด!! เพราะนี่คือขั้นตอนในการผลิตที่บุคคลคนภายนอกไม่ได้มีโอกาสเห็นกันง่ายๆ จะเป็นยังไง มีความพิเศษและพิถีพิทันขนาดไหน เชิญรับชมได้เลยค่ะ คัดสรรใบกระท่อมสดที่มีคุณภาพปลอดสารเคมี นำเข้าเครื่องต้มสกัดสมุนไพร นำเข้าเครื่องสกัดด้วยคลื่นอัลตร้าโซนิค ผ่านกระบวนการ Evaporation เพื่อทำให้สารสกัดเข้มข้น ทำให้สารสกัดมีอนุภาคเล็กลงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ออกมาเป็นสารสกัดกระท่อมแบบน้ำ

เปิดคลังความรู้ กับแคปซูลรูปแบบใหม่

คุณอาจคุ้นเคยกับแคปซูลแบบทั่วๆ ไป โดยมีลักษณะประกบเข้าหากัน แต่ แต่ แต่… เมื่อ Nap ยกประเด็นนี้ขึ้นมา ทุกคนก็พอจะตั้งคำถามกันได้แล้วใช่ไหมคะว่า แล้วตกลงแคปซูลรูปแบบใหม่เป็นยังไง มีหน้าตาแบบไหน? วันนี้เราจะนำความรู้ดีๆ มามอบให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ 1. Capsule in Capsule หรือที่เรียกว่า Hybrid Capsule เป็นสุดยอดนวัตกรรมแคปซูล 2 ชั้น ของวงการอาหารเสริม ที่บรรจุทั้งสารสกัดในรูปแบบผงและของเหลวไว้ในแคปซูลเดียวกัน โดยแคปซูลชั้นนอกจะบรรจุสารสำคัญที่อยู่ในรูปของเหลว และแคปซูลชั้นในจะบรรจุสารสำคัญในรูปแบบผง เมื่อ Capsule in Capsule เข้าสู่ร่างกายแล้วเจอกับกรดในกระเพาะอาหาร แคปซูลชั้นนอกจะเริ่มปลดปล่อยสารสำคัญส่วนที่อยู่ในรูปแบบของเหลวออกมา แต่แคปซูลชั้นในที่ถูกห่อหุ้มไว้จะยังไม่ถูกปลดปล่อยหรือย่อยสลาย จึงสามารถปกป้องสารสำคัญในแคปซูลชั้นในเพื่อให้แตกตัวและดูดซึมในลำไส้ ส่งผลให้ร่างกายได้ประโยชน์จากสารสำคัญได้อย่างครบถ้วน จุดเด่นของแคปซูล นวัตกรรมที่รวมสารสำคัญในรูปแบบของ “ของเหลว” และ “ผง” ไว้ในแคปซูลเดียว ป้องกันสารสำคัญจากการทำลายของกรดในกระเพาะอาหาร นำส่งไปตรงจุดที่พร้อมดูดซึมและเพิ่มประสิทธิภาพของสารสำคัญ 2. Liquid in Capsules หรือที่เรียกกันว่า “ลิแคปส์” (Licaps) เป็นเทคโนโลยีในการนำของเหลวบรรจุในแคปซูลชนิดแข็ง (Hard Capsule) […]

ต้นกระท่อม หน้าตาเป็นยังไง?

ทุกวันนี้เราก็เห็นพ่อค้าแม่ค้า ขายใบกระท่อมกันตามท้องถนน ซึ่งเราก็มักจะเห็นใบกระท่อมที่มีสีเขียวเข้ม แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่า เจ้าต้นกระท่อมนั้นมีหน้าตาลักษณะอย่างไร ? ต้นกระท่อม เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ปานกลาง มีแก่นเป็นไม้เนื้อแข็ง สูง10 -15 เมตร มีลักษณะใบคล้ายใบกระดังงา กระท่อมมีชนิดก้านใบแดงและใบเขียว ดอกกลมโตขนาดเท่าผลพุทรา ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียว เรียงตัวเป็นคู่ตรงข้าม แผ่นใบขนาดกว้างประมาณ 5-10 ซม. ยาวประมาณ 8-14 ซม. ดอกมีสีขาวอมเหลืองออกเป็นช่อตุ้มกลมขนาด 3-5 ซม. เป็นยังไงกันบ้างคะ ต้นกระท่อมนั้นมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แถมยังนำใบมาใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย ถ้าเพื่อนๆ ชอบสาระความรู้ดีๆ แบบนี้ อย่างลืมแชร์ให้คนรอบข้างด้วยนะคะ อ้างอิงจาก : https://bit.ly/3ljZdtM

เรื่องที่คุณไม่เคยรู้..ในกระท่อม

ทำไมกระท่อมถึงมีความสำคัญมากในปัจจุบัน… เพราะกระท่อมนั้นเหมือนสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างมา ถึงแม้ที่ผ่านมากระท่อมเคยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ปัจจุบันก็มีการแก้กฎหมายให้พืชกระท่อมเป็นพืชที่ถูกกฎหมายแล้ว ซึ่งถ้าเราศึกษาและเรียนรู้วิธีการใช้กระท่อมอย่างถูกต้องแล้ว เราจะเห็นถึงประโยชน์จากภายในของใบกระท่อมที่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งทางด้านการแพทย์ เศรษฐกิจ และอื่นๆ อีกมากมายด้วยค่ะ ฉะนั้นแล้ว เรามาร่วมผลักดันกระท่อมไทยให้ก้าวไกลไปในทุกวงการกันนะคะ

สารไมทราไจนีนในกระท่อม ใช้ทำอะไรได้บ้าง

สารไมทราไจนีนในกระท่อม ใช้ทำอะไรได้บ้าง

นี่ๆ ถึงแม้กระท่อมจะเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบันแล้ว แต่มีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จักสาร “ไมทราไจนีน” ที่อยู่ในใบกระท่อมนะ พออ่านแล้วก็เริ่มสงสัยกันแล้วล่ะสิว่า เจ้าสารที่ชื่อว่า ไมทราไจนีนเนี่ย.. มันคืออะไร และใช้ทำอะไรได้บ้าง ? วันนี้ Nap เตรียมคำตอบมาให้แล้วค่ะ สารไมทราไจนีน ก็คือสารที่อยู่ในใบกระท่อมซึ่งเป็นสรรพคุณก็ว่าได้ ที่ผ่านมาผู้คนส่วนใหญ่ก็มักใช้เมื่อเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หรือเจ็บปวด ก็จะใช้ใบกระท่อมนี่แหละจัดการกับปัญหาเหล่านี้ สรุปสารไมทราไจนีน ถ้าถามว่าสารไมทราไจนีนใช้ทำอะไรได้บ้าง ส่วนใหญ่จะนำไปแปรรูปเข้าไปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ลูกอม ครีมกันแดด ยาเวชภัณฑ์ เป็นต้น เพราะจะทำให้สินค้ามีมูลค่าและมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

ถุงท่อม รู้ไว้ก่อนปลอดภัยกว่า

ถุงท่อม

ถุงท่อม หรือ ภาวะถุงท่อม ถือเป็นผลข้างเคียงอย่างหนึ่งจากการใช้ใบกระท่อม ซึ่งการรับประทานใบกระท่อมไม่ควรรับประทานเกินวันละ 5 ใบ โดยรูดก้านใบออกแล้วเคี้ยวเหมือนการเคี้ยวหมาก และไม่ควรกลืนกากเพราะกากใบเป็นเส้นใยที่ย่อยยาก เมื่อรับประทานบ่อยๆ อาจทำให้เกิด “ถุงท่อม” ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนแข็งอยู่ในท้อง เนื่องจากร่างกายของคนเราไม่สามารถย่อยก้านและใบกระท่อมได้ ถุงท่อม หากใช้มากเกินไปหรือไม่รูดก้านกระท่อมออกก่อน อาจทำให้มีกากหรือเศษกระท่อมตกค้างอยู่ในลำไส้ จนเกิดพังผืดหุ้มรอบเศษกระท่อมนั้น ก้อนพังผืดในลำไส้นี้เรียกว่า “ถุงท่อม” จะทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงได้ แม้ปัจจุบันกระท่อมจะไม่ใช่ยาเสพติด และมีการออกฤทธิ์ที่มีประโยชน์ทางยา แต่หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปและติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกันนะคะ